หากเราได้
เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้ารุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการ เหมาะกับหน้างาน เหมาะกับรูปแบบการทำงานการทำธุรกิจของเราจะช่วยให้เราใช้งานเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งหากถามว่าอะไรความเหมาะสมวัดจากอะไร? แอดมินมีข้อมูลมาอัพเดทให้ทราบกันในบทความนี้เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสเปคหรือฟังก์ชั่นของเครื่องสแกนเทียบกับหน่วยงานตนเองได้ดังข้อมูลต่อไปนี้
การเทียบสเปคหรือการตรวจสอบข้อมูลเพื่อค้นหา
เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้ารุ่นที่เหมาะสมกับองค์กรของเรามาที่สุดให้เริ่มต้นจากการลิสข้อมูลเฉพาะขององค์กรของเราขึ้นมาก่อน เช่น
1. เป็นธุกิจรับเหมาก่อสร้าง โรงงานหรือธุรกิจร้านอาหาร.. ให้คิดง่ายๆ คือ คนที่จะต้องสแกนเพื่อบันทึกเวลาทำงานคือใคร เช่น พนง.หน้างาน ช่าง หรือพนักงานออฟฟิศ เป็นต้น
2. มีพนักงาน 120 คน
3. ต้องการให้พนักงานสแกนตามช่วงเวลาต่างๆ ดังนี้
3.1 สแกน 6 ครั้ง เข้าเช้า ออกเที่ยง เข้าบ่าย ออกเย็น เข้าโอที ออกโอที
3.2 สแกน 2 ครั้ง เข้าเช้า ออกโอที
3. มีการทำงานเป็นกะ
4. มีการทำ OT หลังเลิกงานซึ่งเป็น OT แบบฟิกเวลาหรือปล่อยให้ทำโอทีแบบ Free Time
4.1 มีกำหนดเวลาเข้าและจบ OT เช่น เริ่ม 18.30 จบ OT 20.30 น.
4.2 ไม่มีกำหนดเวลาจบ OT เช่น เริ่ม 18.30 น. จบ OT เมื่อพนักงานสแกนออก
5. ต้องการนำข้อมูลจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าเชื่อมต่อกับโปรแกรมเงินเดือน
จากโจทย์ด้านบนเราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เทียบรุ่นของเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือ
เครื่องสแกนใบหน้าได้ดังนี้
1. รูปแบบของธุรกิจคือจุดเริ่มต้นของรายละเอียดทั้งหมด เนื่องจากธุรกิจที่ลูกค้าดำเนินการหรือกลุ่มของพนักงานที่ต้องการให้บันทึกเวลาทำงานคือข้อกำหนดหลักที่บอกว่าเราควรเลือกเป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้ากันแน่? เช่น รับเหมา ช่าง อู่ซ่อมรถ ร้านอาหาร หรือธุรกิจที่ต้องสัมผัสน้ำมัน ธุรกิจประเภทนี้หากเลือกเป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมืออาจไม่เหมาะนักเพราะพนักงานจะต้องใช้มือในการสัมผัสกับคราบต่างๆ จึงทำให้ลายนิ้วมือพนักงานมีรอย ลายนิ้วมือจาง มีคราบน้ำมันหรือสิ่งสกปรกฝังอยู่ตามร่องลายนิ้วมือทำให้สแกนนิ้วยาก
2. จำนวนพนักงาน ประเด็นนี้ไม่ถือเป็นประเด็นหลักหากพนักงานที่ต้องการใช้งานเครื่องสแกนไม่ถึง 1,000 คน เพราะเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าส่วนใหญ่สามารถรองรับผู้ใช้งานได้เยอะ เช่น 6,000 ลายนิ้วมือ เป็นต้น
3. ต้องการให้สแกนกี่ครั้งต่อวัน ประเด็นนี้จะต้องทราบก่อนการเลือกเครื่องสแกนเพราะเครื่องสแกนบางรุ่นไม่สามารถสแกนได้ตามจำนวนครั้งที่ลูกค้าต้องการ
4. รูปแบบการทำ OT เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ควรพิจารณาเพราะปัจจุบันเครื่องสแกนลายนิ้วมือและ
เครื่องสแกนใบหน้าไม่สามารถให้โอทีในรูปแบบที่ลูกค้าต้องการได้ทุกรุ่น
5. การนำข้อมูลบันทึกเวลาจากเครื่องสแกนเข้าโปรแกรมเงินเดือนเป็นอีกหนึ่งความต้องการที่ต้องตรวจเช็ค โดยเราจะต้องเช็คข้อมูลทั้ง 2 ส่วนคือ (1) เชคโปรแกรมเดือนว่ารองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องสแกนหรือไม่ format ที่ใช้ในการรับข้อมูลเข้าเป็นแบบไหน? (2) เชคเครื่องสแกนว่าสามารถส่งข้อมูลออกไปยังโปรแกรมในรูปแบบที่โปรแกรมเงินเดือนต้องการได้หรือไม่?
จะเห็นได้ว่าการเลือกเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าจะต้องตรวจสอบข้อมูลอะไรบ้าง พิจารณาเลือกเครื่องสแกนรุ่นที่เหมาะสมจะช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากเครื่องสแกนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
www.charoenfingerscan.com