สืบเนื่องจากบทความที่แล้วซึ่งแอดมินได้ทิ้งท้ายไว้ว่าจะมาอธิบายวิธีการตั้งกะการทำงานในระบบของ
เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าให้ได้ทราบกัน โดยสรุปการตั้งกะการทำงานในระบบของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ามีด้วยกัน 3 ขั้นตอนคือ (1) ตั้งตารางเวลา (2) ตั้งกะการทำงาน (3) กำหนดกะให้พนักงาน เมื่อทำครบทั้ง 3 ขั้นตอนแล้วระบบก็พร้อมให้เราดูรายงานได้เลย สำหรับลูกค้าที่ต้องการเรื่องราวก่อนหน้าสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี้ "
การคำนวณกะการทำงานของเครื่องสแกนลายนิ้วมือ" แต่สำหรับลูกค้าที่พร้อมจะทำความเข้าใจระบบการตั้งกะการทำงานแล้วก็อ่านต่อได้เลย
ระบบของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและ
เครื่องสแกนใบหน้าเป็นระบบที่ทำงานได้เองไม่พึ่งพาคอมพิวเตอร์ เครื่องสแกนมีหน่วยความจำเก็บบันทึกเวลาในตัว เมื่อต้องการดูรายงานบันทึกเวลาของพนักงานสามารถนำข้อมูลจากเครื่องสแกนเข้าไปประมวลผลในโปรแกรมได้เลย ในการดาวน์โหลดข้อมูลจากเครื่องสแกนเข้าโปรแกรมทำได้หลายช่องทางมีทั้งผ่านระบบแลน ผ่าน usb flash drive ผ่าน wifi ขึ้นอยู่กับเครื่องสแกนรุ่นนั้นๆ จะรองรับการเชื่อมต่อรูปแบบไหนได้บ้าง ในการตั้งกะการทำงานสามารถทำตามขั้นตอนได้ดังนี้
1. กำหนดเวลาทำงาน : การตั้งค่าในขั้นตอนนี้เป็นข้อมูลเริ่มต้นของการตั้งกะ ลูกค้าจะต้องกำหนดเวลาทำงานที่ไม่เหมือนกันลงไปในโปรแกรมทั้งหมด เช่น
1.1 กะปกติ 08.00-17.00 น.
1.2 กะบ่าย 11.00-20.00 น.
1.3 กะเย็น 15.00-00.00 น.
14 กะดึก (ข้ามวัน) 22.00-04.00 น.
หลักการง่ายๆ คือหากเวลาเข้าเวลาออกไม่เหมือนกันจะต้องกำหนดลงไปทั้งหมด
2. ตั้งกะการทำงาน : เมื่อกำหนดเวลาทำงานเรียบร้อยแล้วเราจะต้องเข้าสู่การตั้งค่าในขั้นตอนที่ 2 เพื่อนำเวลาทำงานมาสร้างเป็นกะ ในขั้นตอนการตั้งกะเราสามารถระบุได้ว่าในหนึ่งอาทิตย์ให้ทำงานวันไหนบ้าง? แต่ละวันทำงานเวลาไหน? และในแต่ละวันมีการคิดคำนวณโอทีให้พนักงานหรือไม่? เราจะต้องสร้างกะการทำงานให้ครบและครอบคลุม
3. กำหนดกะให้พนักงาน : เป็นการนำกะการทำงานที่ตั้งไว้ในขั้นตอนที่ 2 มากำหนดให้พนักงานเพื่อให้โปรแกรมทราบว่าพนักงานใช้สูตรคำนวณกะไหนในการคิดคำนวณเวลาทำงาน
เมื่อเราตั้งกะการทำงานให้พนักงานเรียบร้อยแล้วระบบจะนำบันทึกเวลาที่ได้จาก
เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้ามาประมวลผลตามกะการทำงานที่เราตั้งค่าไว้
www.charoenfingerscan.com