จริงๆ ต้องบอกว่าบริการหลังการขายนั้นสำคัญกับทุกระบบที่เราเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือ เครื่องสแกนใบหน้า นาฬิกายาม กล้องวงจรปิดหรืออื่นๆ แต่เหตุที่บทความนี้แอดมินให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายในระบบ
ไม้กั้นรถยนต์คือ ระบบไม้กั้นรถยนต์เป็นระบบที่ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าไม่สามารถดูแลเองได้ ไม่สามารถยกเครื่องหรืออุปกรณ์ที่มีปัญหาไปให้โรงงานซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ได้ อีกทั้งอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันในระบบไม้กั้นรถยนต์มีหลายชนิดในการตรวจเช็คปัญหาย่อมต้องการความชำนาญเฉพาะด้าน ดังนั้นเรื่องบริการหลังการขายของผู้จำหน่ายนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
บริการหลังการขายในระบบ
ไม้กั้นรถยนต์แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ (1) ส่วนของการให้บริการหรือการเข้าตรวจเช็คระบบเมื่อระบบมีปัญหา (2) ส่วนของอุปกรณ์ การเปลี่ยนซ่อมแซมแก้ไขอุปกรณ์ที่มีปัญหา (3) ค่าเดินทางสำหรับหน้างานที่อยู่ไกลจากพื้นที่การให้บริการของผู้จำหน่าย.. ในการรับประกันบริการหลังการขายทั้ง 3 ส่วนผู้ให้บริการแต่ละรายจะให้การรับประกันที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นลูกค้าควรตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการหลังการขายก่อนการตัดสินใจสั่งซื้อเสมอ เพราะหากเราได้เจ้าที่ให้ราคาถูกสุดแต่ไม่รับประกันหลังการขายน้อย เช่น รับประกันอะไหล่ 2 ปี รับประกันงานบริการ 1 ปี เท่ากับหากเมื่อหมด 1 ปีแม้ผู้จำหน่ายจะเคลมหรือซ่อมแซมสินค้าให้ฟรีแต่ลูกค้าก็จะต้องเสียค่าบริการให้ผู้จำหน่ายทุกครั้งที่ผู้จำหน่ายต้องเข้าหน้างาน บริการดังกล่าวมักคิดกันที่ 1,000-2,000 บาท หากลองคิดกันเล่นๆ เราใช้งานระบบ
ไม้กั้นรถยนต์มาได้ 1.2 ปี ซึ่งเลยอายุการรับประกันค่าบริการไปแล้ว ผู้จำหน่ายจะคิดค่าเข้าบริการครั้งล่ะ 1,000 บาท ในระยะเวลาอีก 10 เดือนที่ยังมีการรับประกันอะไหล่อยู่แต่เราจะต้องเสียค่าบริการทุกครั้ง ครั้งล่ะ 1,000 บาท หากระบบไม้กั้นรถยนต์มีปัญหา 5 ครั้งในระยเวลาดังกล่าว (อาจเกิดได้น้อยหรือมากกว่าเพราะในระบบไม้กั้นรถยนต์มีอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันหลายชนิด) เราจะต้องเสียค่าบริการไม่น้อยกว่า 5,000 บาทตามเงื่อนไขดังกล่าวอย่างแน่นอน
การให้บริการหลังการขายในระบบ
ไม้กั้นรถยนต์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะผู้จำหน่ายหรือช่างส่วนใหญ่จะไม่ยินดีเข้าบริการหรือเข้าตรวจสอบปัญหาให้กับลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อสินค้าจากตนเอง แน่นอนว่าหากเราไม่สามารถติดต่อผู้จำหน่ายเดิมหรือผู้จำหน่ายเดิมไม่ยอมเข้าบริการหลังการขายลูกค้าก็จะต้องค้นหาผู้จำหน่ายหรือช่างเข้าไปดูแลจัดการปัญหาให้ แต่การเรียกใช้บริการจากผู้จำหน่ายที่ไม่ได้ติดตั้งให้จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรกเข้าเลยก็ว่าได้ ช่างหรือผู้จำหน่ายรายใหม่จะคิดค่าบริการเข้าตรวจเช็คระบบก่อนการแก้ไขปัญหาเสมอ
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังที่แอดมินอธิบายไปลูกค้าสามารถควบคุมหรือป้องกันได้ด้วยการเลือกผู้จำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือ มีประวัติการซื้อขายกับหมู่บ้านหรือคนที่ลูกค้ารู้จัก หรือมีการให้บริการหลังการขายที่เราสามารถตรวจสอบใช้อ้างอิงได้ เพราะข้อความในเอกสารยากที่จะรับประกันอนาคตได้นั้นเอง
www.charoenfingerscan.com