ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ที่โควิด 19 แพร่กระจายอย่างหนักทำให้ทุกคนต้องเข้มงวดในการป้องกันตัวเอง ต้องเว้นระยะห่าง ต้องลดการสัมผัส ต้องสวมหน้ากากอนามัย บางหน่วยมีมาตรการให้ wfh แต่ก็ยังต้องมีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้าออฟฟิศและแน่นอนว่าแทบทุกออฟฟิศจะมี
เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าไว้ใช้งาน การสแกนลายนิ้วมือก็อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส การสแกนใบหน้าก็ติดปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัยที่ต้องถอดออกก่อน หากต้องการลดการสัมผัสและไม่ต้องการถอดแมชออกเพื่อสแกนใบหน้า จะจัดการกับการบันทึกเวลาเข้า-ออกงานหรือการผ่านประตูยังไงได้บ้างเรามาทำความเข้าใจกันในบทความนี้
การจัดการเรื่องการบันทึกเวลาเข้าออกงานหรือควบคุมการเปิดปิดประตู หากเป้าหมายคือลดการสัมผัสและไม่ต้องการถอดแมชสแกนใบหน้าเราจะต้องดูว่า
เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าที่ใช้งานอยู่มีฟังก์ชั่นรอบรับการสแกนด้วยช่องทางไหนบ้าง เช่น สแกนด้วยใบหน้า, สแกนด้วยลายนิ้วมือ, ทาบบัตร, กดรหัสผ่าน เป็นต้น และในกรณีที่สแกนด้วยใบหน้าเครื่องสแกนใบหน้าที่ใช้งานอยู่รองรับการสแกนในขณะใส่หน้ากากไหม? เมื่อได้คำตอบแล้ว เราสามารถจัดการระบบสแกนเพื่อลดการสัมผัสและไม่ต้องการถอดแมชสแกนหน้าทำได้ 2 ทางเลือกดังนี้
1. ปรับเปลี่ยนระบบบันทึกเวลาเป็นการทาบบัตรแทน วิธีนี้ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย หากเป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือ
เครื่องสแกนใบหน้าของทาง hip สามารถสั่งซื้อบัตร rfid คลื่น 125khz ไปใช้งานได้เลย บัตรทาบใบหนึ่งประมาณ 15 บาท ในการเพิ่มบัตรเข้า id พนักงานสามารถทำได้ 2 วิธีคือ
1.1 เพิ่มบัตรเข้า id พนักงานโดยที่ไม่ยกเลิกการสแกนนิ้วหรือสแกนหน้า (ลูกค้าบางรายแค่ต้องการเพิ่มช่องทางการสแกนเพื่อบันทึกเวลาเท่านั้น) วิธีนี้สามารถเพิ่มบัตรผ่านให้พนักงานได้เลย โดยให้เข้าไปที่เมนูผู้ใช้ > แก้ไข แล้วเลือก id ของพนักงานที่ต้องการเพิ่มบัตรแล้วกด ok > เลือกหัวข้อบัตรผ่านแล้วกด ok > นำบัตรไปทาบที่เครื่องสแกน.. แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว พนักงานสามารถใช้บัตรผ่านดังกล่าวทาบเข้าออกงานได้เลย
1.2 ต้องการใหัพนักงานใช้แค่บัตรผ่านเพียงอย่างเดียว (เป็นการป้องกันไม่ให้พนักงานสแกนนิ้วเพื่อลดการสัมผัส) วิธีนี้ให้เริ่มต้นด้วยการลบ id พนักงานทิ้งแล้วสร้าง id พนักงานนั้นขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเราไม่สามารถยกเลิกลายนิ้วมือหรือใบหน้าที่พนักงานสแกนเก็บไว้ได้ และให้สร้าง id เดิมของพนักงานขึ้นมาใหม่เพื่อเก็บข้อมูลเฉพาะบัตรผ่าน เช่น หากเดิมนายเสกสันต์ใช้ id 200 เมื่อลบ id 200 ทิ้งแล้วหลังจากนั้นก็สร้าง id 200 ขึ้นมาใหม่ ข้อมูลทุกอย่างที่พนักงานเคยสแกนจะยังคงอยู่เหมือนเดิม
2. หากลูกค้ายังคงต้องการให้สแกนใบหน้า (เพื่อป้องกันปัญหาการทาบบัตรแทนกัน) แต่เครื่องสแกนลายนิ้วมือและ
เครื่องสแกนใบหน้าที่ใช้งานอยู่ไม่รองรับการสแกนใบหน้าแบบใส่แมช ลูกค้าจะต้องเปลี่ยนเครื่องสแกนใบหน้าใหม่เป็นรุ่นที่ใส่แมชสแกนได้ เช่น cif712 เป็นต้น การเปลี่ยนเครื่องสแกนด้วยวิธีนี้นอกจากจะเสียค่าใช้จ่ายเยอะแล้วลูกค้าจะต้องเปลี่ยนระบบการคำนวณเวลาอีกด้วยเพราะเครื่องสแกนใบหน้าวัดอุณหภูมิแบบใส่หน้ากากสแกนได้ใช้โปรแกรมคนละเวอร์ชั่นกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าปกติ
การประยุกต์ใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในแต่ละช่วงถือเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งและช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
www.charoenfingerscan.com
