ว่าด้วยเรื่องของการตั้งเวลาทำงานในระบบของ
เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้า แอดมินพบว่าจุดที่ลูกค้าตั้งค่าผิดพลาดมากที่สุดคือการกำหนดขอบเขตเวลา เช่น กำหนดให้ระบบนำบันทึกเวลาที่ได้จากเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้ามาคำนวณเป็นเวลาเข้างานหรือเวลาออกงาน เวลาไหนจะเป็นเวลาที่พนักงานสแกนเข้างานและเวลาไหนจะให้เป็นเวลาออกงานกันแน่? เนื่องจาก
เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าในปัจจุบันไม่มีฟังก์ชั่นปุ่มกดเหมือนเมื่อก่อน ฟังก์ชั่นปุ่มกดคือการกดปุ่มฟังก์ชั่นก่อนการสแกน เช่น กด 1 แล้วสแกนเพื่อให้ระบบรับรู้ว่าการสแกนครั้งนี้คือสแกนเข้างาน กด 2 แล้วสแกนเพื่อให้ระบบรับรู้ว่านี้คือสแกนออกงาน กด 3 แล้วสแกนคือการเข้า ot กด 4 แล้วสแกนคือการสแกนเพื่อออก ot เป็นต้น
เพื่อลดความสับสนความยุ่งยากในการใช้ฟังก์ชั่นปุ่มกดผู้ผลิตจึงได้พัฒนาความสามารถของโปรแกรมคำนวณเวลาให้รับรู้การสแกนของพนักงานแต่ละกะได้อัตโนมัติ เมี่อโปรแกรมได้รับบันทึกเวลาจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือ
เครื่องสแกนใบหน้าโปรแกรมก็จะนำเวลาดังกล่าวเข้าสูตรคำนวณเวลาตามกะที่พนักงานได้รับและสรุปออกมาเป็นเวลาทำงาน ขาด ลา มาสาย โอที ให้อัตโนมัติ แต่จะได้มาซึ่งสูตรการคำนวณเวลาที่ถูกต้องเราจะต้องเป็นผู้กำหนดขอบเขตเวลาการสแกนแต่ละช่วงให้โปรแกรมรับรู้ แอดมินอธิบายได้ดังนี้
การตั้งตารางเวลาทำงานในระบบของเครื่องสแกนลายนิ้วมือและ
เครื่องสแกนใบหน้าประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ (1) เวลาทำงานจริง (2) เวลายืดหยุ่นหรือเวลาที่ให้สายหรือให้ออก่อนได้ (3) ขอบเขตของเวลาเพื่อให้ระบบรับรู้ว่าการสแกนแต่ละครั้งเป็นการสแกนเพื่อเข้าหรืออกงานกันแน่ สำหรับข้อ 1 และ 2 แอดมินได้อธิบายไว้แล้วในบทความก่อนหน้าอ่านได้ที่นี่ >>
ความสัมพันธ์ของขอบเขตเวลาในการตั้งตารางเวลาวิธีกำหนดขอบเขตเวลาเพื่อให้โปรแกรมรับรู้การสแกนของพนักงานแต่ละช่วงอธิบายได้ดังนี้
6. เริ่มเข้างานได้ตั้งแต่ : เป็นการบอกโปรแกรมว่าเราจะนำเวลาที่พนักงานสแกนมาคำนวณเป็นเวลาเข้างานตั้งแต่เวลาไหน? เช่น หากเวลาเข้างานจริงคือ 08.00 พนักงานมาสแกนกันเร็ว คนแรกๆ ที่มาสแกนคือ 06.30 ให้เรากำหนดเป็น 06.00 น. ได้เลย (หากพนักงานมาก่อน 06.00 โปรแกรมจะไม่หยิบเวลานั้นมาคำนวณ ดังนั้นต้องกำหนดให้ครอบคลุม)
7. เข้างานภายในเวลา : เป็นการบอกโปรแกรมว่าเราจะนำเวลาที่พนักงานสแกนเพื่อบันทึกเป็นเวลาเข้างานเลทสุดถึงเวลาไหน? เช่น เวลาเข้างาน 08.00 เลทสุดกำหนดให้ 12.00 น. เป็นต้น (หากพนักงานมาช้ากว่า 08.00 โปรแกรมจะคำนวณเป็นเวลาสายให้)
8. เลิกงานได้ตั้งแต่เวลา : ระบบจะทำงานเช่นเดียวกับ "เริ่มเข้างานได้" เราจะต้องกำหนดเวลาให้อยู่ก่อนเวลาเลิกงานจริงแต่ต้องไม่ก่อนเวลาข้อใน 7 เช่น เลิกงานจริง 17.00 น. ให้เข้างานได้ภายใน 12.00 น. ดังนั้นให้เลิกงานได้ตั้งแต่เวลา เรากำหนดเป็นเวลาใดก็ได้ที่ก่อน 17.00 และหลัง 12.00 เช่นกำหนดให้เป็น 13.00 น.
9. ให้เลิกงานภายในเวลา : เป็นเวลาที่พนักงานสแกนครั้งสุดท้ายเพื่อเลิกงาน เวลานี้จะต้องครอบคลุมการทำโอทีของพนักงานด้วย เช่น เลิกงานจริง 17.00 แต่ให้ทำโอทีถึง 21.00 ดังนั้นให้เลิกงานได้ภายในเวลาก็จะต้องกำหนดไว้หลัง 21.00 น.
บางหน่วยงานที่ทำงานยาวๆ ทำโอทียาวๆ เวลาในหัวข้อให้เลิกงานได้ภายในเวลาจะต้องอยู่ก่อนเวลาที่ให้เริ่มเข้างานได้ เช่น เลิกงาน 17.00 ทำโอทีไปถึง 06.00 น. ของวันพรุ่งนี้ แต่เนื่องจากเรากำหนดให้ 06.00 น. เป็นเวลาที่สแกนเพื่อเข้างาน ดังนั้นเวลาที่ให้เลิกงานได้จะต้องอยู่ก่อน 06.00 น. อาจเป็นเวลา 05.59 หรือหากต้องการให้เลิกงานได้เวลา 06.00 น. เราจะต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเวลาที่ให้เข้างานได้ตั้งแต่ 06.00 น. เป็น 06.30 หรือ 07.00 น. แทน
เวลาจะต้องไม่พันกัน ไม่ทับซ้อนกัน ระบบจึงจะทำงานได้
www.charoenfingerscan.com