ว่าด้วยเรื่องระบบไม้กั้นรถยนต์ (สิ่งที่ลูกค้าเลือกหา vs ความเป็นจริงที่ควรเลือก)

เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าวิธีเลือกซื้อระบบไม้กั้นรถยนต์ของลูกค้าแต่ละรายไม่เหมือนกัน ลูกค้าบางรายเน้นผู้จำหน่ายที่อยู่ใกล้ไม่เกี่ยงราคาเพราะคาดหวังว่าเมื่อระบบไม้กั้นรถยนต์มีปัญหาผู้จำหน่ายจะเข้าบริการได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ลูกค้าบางรายเน้นระบบไม้กั้นรถยนต์ที่มีสเปคสูงๆ เช่นยกขึ้นลงได้เยอะๆ มอเตอร์ตัวใหญ่ๆ วัตต์เยอะๆ ลูกค้าบางรายเน้นหน้าตาของชุดไม้กั้นรถยนต์ต้องการให้สวยเสริมภาพลักษณ์ของโครงการ และลูกบางรายไม่สนใจอะไรขอแค่ได้ชุดไม้กั้นรถยนต์ราคาถูกสุดก็พอ ดังนั้นเรามาดูกันว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการกับสิ่งที่ลูกค้าควรใช้พิจารณาจะใช่ถูกต้องตรงกันหรือต่างกันอย่างไร?

สิ่งที่เหมือนหรือใกล้เคียงกันในระบบไม้กั้นรถยนต์คือรูปแบบการทำงาน กล่าวคือระบบไม้กั้นรถยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อสามารถเลือกระบบทำงานได้ จะใช้แบบ manual สั่งเปิดปิดโดย รปภ. หรือผู้ใช้งานก็ได้ หรือจะใช้แบบทาบบัตร หรือใช้ร่วมกับบัตรผ่านระยะไกลแบบ easy pass ก็ทำได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่นำมาต่อร่วม และลูกค้าสามารถใช้หลายระบบให้สั่งงานไม้กั้นรถยนต์ร่วมกันได้ ส่วนที่ต่างจริงๆ ของไม้กั้นรถยนต์จะมีด้วยกัน 3 เรื่องคือ
1. ความหนาของตู้ไม้กั้นรถยนต์ บางรุ่นเหล็กบางๆ ก็จะเป็นสนิมได้ง่าย บางรุ่นไม่เป็นสนิม
2. สีที่ใช้ทา บางรุ่นชุบสีอบสีในขั้นตอนผลิตตู้ไม้กั้นทำให้สีติดทนนานไม่หลุดล่อน บางรุ่นทาสีเคลือบสี
3. การใช้ไฟ บางรุ่นใช้ไฟ 220v บางรุ่นใช้ไฟ 24v

สิ่งที่ลูกค้าควรใช้พิจารณาเลือกซื้อระบบไม้กั้นรถยนต์คือ
1. อุปกรณ์ทั้งหมดในระบบมีอะไรบ้าง? : นอกจากตัวแขนกั้นรถยนต์ ความยาวของแขนกั้น ปุ่มกดและรีโมท ระบบไม้กั้นรถยนต์ควรมี sensor 2 ชนิดคือ photo sensor และ loop detector เพื่อใช้ป้องกันไม้กั้นรถยนต์ตกใส่รถด้วย และไม่ควรมี sensor เพียง 1 ชนิด
2. กรณีที่ลูกค้าเลือกใช้ระบบไม้กั้นรถยนต์แบบอ่านบัตร สิ่งที่ควรตรวจสอบคือระยะอ่านบัตรที่ได้ ระยะอ่านบัตรที่ใกล้กว่าราคาย่อมถูกกว่าและระยะอ่านบัตรดังกล่าวลูกค้า ok หรือไม่?
3. การให้บริการหลังการขาย มีรายละเอียดย่อยๆ ที่ลูกค้าควรให้ความสำคัญได้แก่
3.1 รับประกันเท่าไหร่?
3.2 ในระยะเวลาประกันมีอะไหล่สำรองหรือไม่?
3.3 การให้บริการหลังจากหมดประกันยังไง? ประเด็นนี้ถือว่าสำคัญที่สุดเพราะระบบไม้กั้นรถยนต์มักมีปัญหาเมื่อหมดประกันแล้ว ถ้าช่างไม่ดูแลต่อหรือมีค่าใช้จ่ายเรื่องการเข้าหน้างานรายครั้งแอดมินบอกได้เลยว่าลูกค้าจะต้องจ่ายค่าบริการเยอะมาก เช่น เข้าหนึ่งครั้งคิด 2,000 บาท ถ้าหนึงปีเข้า 10 ครั้งก็ 20,000 บาท ไม่รวมอะไหล่หากต้องเปลี่ยน
4. ราคาไม้กั้นรถยนต์ ราคาก็คือส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาแต่แอดมินไม่แนะนำให้ใช้ราคาเป็นปัจจัยแรก (เน้นหาของถูก) เพราะของที่ถูกมากๆ อาจมาพร้อมสเปคหรือรายละเอียดอื่นๆ ที่ด้อยกว่าก็ได้
5. โลเคชั่นของผู้จำหน่าย ระยะทางใกล้ไกลมีผลต่อการให้บริการอย่างแน่นอน แต่ใกล้กว่าก็ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีกว่า ดังนั้นลูกค้าควรเช็คประวัติการให้บริการหลังการขายของผู้จำหน่ายรายนั้นๆ ก่อนเสมอ 

หากเป็นเรื่องของระบบไม้กั้นรถยนต์เราพร้อมให้บริการเสมอ
www.charoenfingerscan.com