เรามาพบกันอีกหนึ่งครั้งกับคำว่าความเหมาะสมในการเลือกใช้งาน
เครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้า หากจะถามว่าอะไรเหมาะอะไรไม่เหมาะเราดูได้จากอะไรตรงไหน? มันคงเป็นอะไรที่พูดยากเพราะปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดที่ออกมาชี้ชัดหรือมีมาตรฐานการวัดค่าความเหมาะสมออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ดังนั้นข้อมูลในบทความครั้งนี้แอดมินขอใช้ประสบการณ์ในการวัดค่าความเหมาะสมการเลือกใช้งาน
เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพได้ว่าควรเลือกใช้อุปกรณ์รุ่นไหนกับลักษณะหน้างานแบบไหนกันแน่
ก่อนจะไปเทียบรุ่นของเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือ
เครื่องสแกนใบหน้าเรามาทำความเข้าใจเรื่องสเปคของเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้ากันก่อน ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าทางโรงงานผู้ผลิตอัดสเปคของเครื่องสแกนไว้ล้นมาก โดยเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าสามารรองรับลายนิ้วมือได้เริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 ลายนิ้วมือไปจนถึง 10,000 ลายนิ้วมือ และเริ่มต้นจากรองรับผู้ใช้งานได้ 700 ใบหน้าไปจนถึง 3,000 ใบหน้าเลยทีเดียว เรียกได้ว่าหากความต้องการของเราคือรองรับผู้ใช้งานได้ 20 คน รวมๆ แล้วก็ 40 ลายนิ้วมือ (เก็บคนละ 2 นิ้ว) หากผู้จำหน่ายเสนอราคาเครื่องสแกนที่รองรับ 6,000 ลายนิ้วมือให้จะทำอย่างไร สเปคเยอะขนาดนั้น ดูโอเวอร์เกินความจำเป็นไปไหม? จริงๆ แล้วประเด็นนี้ให้มองข้ามไปเลย เพราะจำนวนลายนิ้วมือของเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือ
เครื่องสแกนใบหน้าในตลาดไม่มีแบบ 100 ลายนิ้วมือหรือ 50 ลายนิ้วมือแน่นอน หากจำนวนลายนิ้วมือเราที่ได้รับยังคงมากกว่าความต้องการในการใช้งานอันนั้นไม่ถือเป็นประเด็นปัญหา ส่วนปัญหาที่ควรพิจารณาคือ
1. ลักษณะการใช้งาน เรานำเครื่องสแกนลายนิ้วมือไปใช้งานกับหน้างานที่เป็นก่อสร้างหรือไม่? เพราะหากเป็นเช่นนั้นแอดมินแนะนำให้เลือกเป็นเครื่องสแกนใบหน้าจะเหมาะสมกว่าเพราะหน้างานที่เป็นก่อสร้างพนักงานจะมีปัญหาเรื่องลายนิ้วมือแทบ 100% เลยก็ว่าได้ เพราะลักษณะงานของลูกค้าคือจะต้องใช้มือหยิบจับอุปกรณ์ ฝุ่น เศษผง คลาบปูนหินดินทราย ล้วนมีผลต่อลายนิ้วมือทั้งสิ้น
2. ความต้องการข้อมูล เช่น ลูกค้าบางท่านต้องการดูแค่เข้าๆ ออกๆ ไม่สนใจเรื่องการคำนวณเวลา ขาด ลา มาสาย ไม่เอา ถ้าเป็นเช่นนี้ให้เลือกเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่รองรับการทำให้กับระบบ excel เลยจะให้ประโยชน์ได้มากกว่าเพราะเราไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม ดาวน์โหลดบันทึกเวลามาปุ๊ปเราก็เปิดดูได้เลยทันที (เครื่องสแกนจะโหลดรายงานเป็นไฟล์ excel ให้เลย) หรือต้องการคำนวณเวลา ขาด ลา มาสาย โอที ทำงานตามกะ หรือต้องการส่งข้อมูลออกไปยังโปรแกรมเงินเดือน อันนี้แอดมินแนะนำให้เลือกใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าที่เชื่อมต่อผ่านโปรแกรม premium time เท่านั้น จะสามารถรองรับความต้องการข้อนี้ของลูกค้าได้
3. ความต้องการให้
เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าสามารถคิดเงินเดือนให้เลยทันที ประเด็นนี้แอดมินบอกได้เลยว่าไม่มี เราต้องใช้ 2 อย่างคู่กับคือ เครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าและโปรแกรมเงินเดือนเราจึงจะสามารถคำนวณเงินเดือนออกมาได้ ซึ่งลักษณะการใช้งานก็คือเราจะส่งข้อมูลจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือหรือเครื่องสแกนใบหน้าเข้าสู่โปรแกรมเงินเดือนให้โปรแกรมเงินเดือนคำนวณข้อมูลต่อไป
ยังมีหลักเกณฑ์อีกหลายข้อหลายประเด็นที่เป็นเรื่องของการเลือกใช้งานเครื่องสแกนลายนิ้วมือและเครื่องสแกนใบหน้าแอดมินจะนำมาอัพเดทให้ทราบกันในบทความถัดไป
www.charoenfingerscan.com